ททท.ส่งสัญญาณเปิดท่องเที่ยวในประเทศ | พิพัฒน์ รัชกิจประการ

ททท.ส่งสัญญาณเปิดท่องเที่ยวในประเทศ


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน พร้อมคณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน ภาคท่องเที่ยวเอกชน และกระทรวงสาธารณสุข ในโครงการเที่ยวบินพิเศษเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน วันนี้ จะทำให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ ทั้งสายการบิน โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ถึงการให้บริการตามมาตรฐานสาธารณสุข และมาตรฐานด้านสุขอนามัย หรือ SHA เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเริ่มเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ก่อนจะขยายไปตลาดต่างประเทศต่อไป
ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการ ททท.ด้านตลาดในประเทศ กล่าวว่า การส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในประเทศที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย สุขอนามัย การท่องเที่ยวอย่างใส่ใจ เชื่อว่าโครงการท่องเที่ยวในประเทศ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ทัวร์เที่ยวไทย และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางไม่ต่ำกว่า 160 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 882,000 ล้านบาท ในปี 65
นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ กลับมาเปิดให้บริการเกือบ 100% แล้ว ตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา เหลือเพียงดอยอินทนนท์ ที่ยังรอดูสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเปิดได้ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

ติดตาม สำนักข่าวไทย อสมท (ช่อง 9MCOT HD เลข 30 | Thai News Agency MCOT
รายการ ข่าวราดแกง \”กำภูรัชนีย์\” คลิก http://bit.ly/newsandrice
เกาะติดข่าว คลิก http://bit.ly/tnaytcoronavirus
เว็บไซต์ คลิก http://bit.ly/tnacorona
ทันข่าวอ่าน : https://tna.mcot.net
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/tnamcot
ยูทูบ : https://www.youtube.com/tnamcot
Tik Tok : https://www.tiktok.com/@tna.mcot
ทวิตเตอร์ : https://www.twitter.com/tnamcot
อินสตาแกรม : https://www.instagram.com/tnamcot
MCOT Covid Center : https://covid19.mcot.net/
ไลน์ : https://lin.ee/pWNXGtn

ติดต่อโฆษณา ออนไลน์ โทร. 022016600
ติดต่อซื้อภาพข่าว 022016096 และ 022016258

สมัครรับข้อมูลฟรี! Subscribe https://www.youtube.com/tnamcot
ชมวิดีโอรอบทิศทาง 360VR http://bit.ly/tna360vr
ชมทุกตอน \”ชัวร์ก่อนแชร์\” https://goo.gl/zmgfeG
ข่าวดังข้ามเวลา https://goo.gl/rKcCQq
สกู๊ปพิเศษ https://goo.gl/Yw0ZIw

ททท.ส่งสัญญาณเปิดท่องเที่ยวในประเทศ

ชาดารวยมีวัวควายเพียบ – ตั๊นพ่อให้เงินใช้ปีละ 6 ล้าน – อภิสิทธิ์ทำนาฬิกาหายที่ฝรั่งเศส


จากการที่ ป.ป.ช.เปิดโผบัญชีทรัพย์สิน 414 ส.ส. พบข้อมูลที่น่าสนใจของ ส.ส.คนดัง อาทิ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย มีทรัพย์สิน 213,084,294 บาท ไม่มีหนี้สิน แจ้งว่ามีกระบือ 151 ตัว รวม 7,550,000 บาท โค 1,044 ตัว รวม 52,200,000 บาท อาวุธปืน 10 กระบอก รวม 500,000 บาท

น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มี 664,683,713 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินโรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง และยังมีนาฬิกาหรู อาทิ Richard Mille 1 เรือน มูลค่า 6 ล้านบาท และอีกหลายเรือน ราคาตั้งแต่ 1,200,0003,100,000 บาท นอกจากนี้ยังแจ้งว่ามีรายได้จากบิดาให้ใช้จ่ายส่วนตัวกว่า 6.6 ล้านบาทต่อปี พร้อมจ่ายค่าประกันชีวิตให้อีกปีละ 3 ล้านกว่าบาท

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคู่สมรสนางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 116,906,150 บาท ไม่มีหนี้สิน ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เงินฝาก ส่วนทรัพย์สินอื่น ประกอบด้วย นาฬิกา ยี่ห้อหรู เครื่องประดับ ทั้งนี้ ยังแจ้งไว้ด้วยว่านาฬิกาจำนวน 2 เรือน สูญหายที่ประเทศฝรั่งเศส

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://morningnews.bectero.com/political/23Aug2019/150131
เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) 23 ส.ค.2562
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารได้ก่อนใครได้ที่นี่
เรื่องเล่าเช้านี้.com : http://morningnews.bectero.com
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3

ชาดารวยมีวัวควายเพียบ - ตั๊นพ่อให้เงินใช้ปีละ 6 ล้าน - อภิสิทธิ์ทำนาฬิกาหายที่ฝรั่งเศส

จำคุก 1 เดือน ‘นาที รัชกิจประการ’ ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี – พ้นจาก ส.ส.


ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 1 เดือน นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ภรรยาของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในคดียื่นบัญชีทรัพย์ ต่อ ป.ป.ช.เท็จ เมื่อปี 2556
โดยไม่แสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แก่ ที่ดิน 2 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังมูลค่ารวม 2,000,000 บาท และหนี้สินของคู่สมรส 4 รายการรวม 93,039,949 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินจำนวนมาก แต่ชี้แจงว่า ไม่ทราบถึงการทำธุรกรรมของคู่สมรสและเป็นความผิดพลาดของเลขานุการนั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ตระหนักถึงหน้าที่ที่ตนซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้กลไกการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไม่เกิดประสิทธิผลต่อการตรวจสอบ ข้อแก้ตัวตามอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้อที่ง่ายต่อการกล่าวอ้างเพื่อให้ตนเองพ้นผิดจึงฟังไม่ขึ้น
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลงโทษจำคุกและปรับผู้ถูกกล่าวหาโดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปีเหมาะสมแก่พฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ต้องพ้น จาก ส.ส.
รายละเอียดเพิ่มเติม https://ch3thailandnews.com/news/205289

เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) 28 สิงหาคม 2563
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารได้ก่อนใครได้ที่นี่
เรื่องเล่าเช้านี้.com : https://morningnews.bectero.com
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3
Official LINE : @ruenglao
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

จำคุก 1 เดือน 'นาที รัชกิจประการ' ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี - พ้นจาก ส.ส.

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา


รมต.ท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมคณะ รับฟังเสียงชาวภูเก็ต ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากชาวภูเก็ตไม่เห็นด้วย ไม่พร้อมก็คงยังไม่เปิด
วันนี้(6ก.ย.63) ที่บริเวณลานจอดรถ บ้านกำนัน ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาร่วมรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน ในเรื่องความเดือดร้อนผลกระทบจากโควิด19​ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ก่อนที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ,นายปราบ กี่สิ้น ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ,ภาคเอกชนในพื้นที่ ผู้ประกอบการSme,ผู้ประกอบด้วยตัวแทนจากสมาคมโรงแรมภาคใต้ ,ผู้แทนผู้ประกอบการร่มเตียงป่าตอง ,ประชาชนในพื้นที่ป่าตองและชาวภูเก็ต จำนวนกว่า 200 คนเข้าร่วม
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมได้รับหน้าที่จาก นายกฯ มาภูเก็ต ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงมาในพื้นที่ ภูเก็ต มา วันที่ 56 ก.ย.63 และ จะมีการสรุปในวันที่ 7 ก.ย.63นี้ ซึ่งเรามาเก็บข้อมูลว่า ถ้ามีนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ในวันที่ 1 ตุลาคม เเล้วนั้นทางชาวบ้านจะมีความคิดที่ ยินดีจะต้อนรับหรือไม่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งตรงนี้ ผมจะเอาสรุปไป รายงานถึงนายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมเดินสำรวจมา ใน 23 วัน เเละ เมื่อวานนี้ ผมได้เดินไปสำรวจที่ เมืองเก่า ภูเก็ต ผมได้คุยกับเจ้าของห้างร้านและคนในชุมชน ว่าพวกเขานั้นมีความต้องการอย่างไร เเละ ซึ่งข้อมูลที่ผมได้รับมา และมีการสะท้อนออกมา พอสมควร และวันนี้ได้มาในพื้นที่ป่าตองข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้รับมานั้นเป็น นั้นเป็นข้อมูลที่ดี  
ทั้งนี้ ประเด็นหลักๆ คือการสื่อสาร ออกไป ซึ่งทำให้คนภูเก็ตที่ได้รับสารนั้น ยังไม่เข้าใจร้อยเปอร์เซนต์ ผมจึงขอสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต ณ ตอนนี้ ว่า การที่มีจะให้ ชาวต่างชาติจากต่างประเทศเข้ามาภูเก็ต จะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ผ่านการตรวจเชื้อ โควิด เเละ ตรวจอีกครั้งที่เมื่อนักท่องเที่ยวถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจหาเชื้อ โควิท 19 หลังจากนั้น ASQ เป็นการกักตัว 14 วัน เเล้ว นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวได้(ในจังหวัดภูเก็ต) โดย คนทั่วไปอาจจะ มีความเข้าใจ (ที่เป็นคำถามว่า) ทำไมต้องเป็น ภูเก็ตโมเดล Phuket Model เพราะ ภูเก็ตมีสนามบิน เเละ รายได้ของภูเก็ตนั้นเกิดจาการท่องเที่ยว 90% ผมจึงมุ่งเน้นมาที่จังหวัดภูเก็ต  
ซึ่งต่อไปนี้ ผมจะไม่ใช่คำว่า  Phuket Model  จะใช้คำอื่นแทน เราจะคิดอีกที ว่าจะใช้คำพูดอะไร  
ผมขอย้ำ เพื่อการสื่อสารตรงนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พวกเขาจะต้องเข้าระบบในการกักตัว 14 วัน เเล้ว นักท่องเที่ยว เดินทางออกไป ท่องเที่ยวได้
ด้านนายปรีชาวุฒิ(ปราบ) กี่สิ้น ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง กล่าวว่า อยากจะขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับจังหวัดภูเก็ตโดยการเดินทางมารับฟังปัญหาและเสนอข้อเรียกร้องของชาวภูเก็ตในครั้งนี้ สิ่งแรกที่อยากขอให้รัฐบาลนั้นต้องเร่งทำโดยด่วนนั้นก็คือเงินเยียวยาให้กับประชาชน ขอให้มีการเพิ่มเป็น 1 หมื่นบาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนเรื่องการฟื้นฟู ควรออกเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการSME และขอให้มีการพักชำระหนี้ออกไป 3 ปี เพราะถ้าไม่ดำเนินการเรื่องดังกล่าวฯ ประชาชนจะไปต่อไม่ได้ เนื่องจากประชาชนชาวภูเก็ตปรับตัวไม่ทัน ทั้งนี้ หากรัฐบาลให้โอกาสภูเก็ตได้มีการฟื้นตัว เชื่อว่าภูเก็ตจะกลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมากมายอีกครั้ง
ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จังหวัดนั้นภูเก็ตจะต้องมีการปรับผังเมือง เพราะปัจจุบันจำนวนประชากรหนาแน่นมาก ขอเสนอให้มีการขยายถนนหนทาง เพิ่มสวนสาธารณะให้มากขึ้น พัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ Mice City ศูนย์กลางการประชุมระดับโลก รวมถึงยังได้เสนอในเรื่องของมาตรการความปลอดภัย จัดตั้งศูนย์ Big Data รวบรวมข้อมูลกล้องวงจรปิดในพื้นที่ มีการพัฒนา Free WiFi ขึ้นมา เพื่อจะตอบสนองเมืองแห่งการท่องเที่ยวระดับโลกได้
และต้องการให้มีการพัฒนาโรงพยาบาลป่าตองให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการคัดกรองโควิด19
นายพิพัฒน์ รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้กล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมถึงเรื่องแคมเปญ Thailand long stay ต่อไปจะมีวีซ่าแบบพิเศษที่เป็นระบบเดียว คือ 90 วัน การมีวีซ่านี้เพราะเรานั้นมีกลุ่มลุกค้า กลุ่มเเบบนี้อยู่เเล้ว เเปลว่า กลุ่มคนพวกนี้จะอยู่นานและพวกเขายอมกักตัว ทำตาม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด19)
การนำนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ถึงแม้ว่า นายกฯ เองถาม ว่าทำไมผมถึงเลือกจังหวัดภูเก็ต หลังจากนี้ ผมคิดว่า ผมอาจจะมองหาจังหวัดอื่นด้วย ซึ่งการเอานักท่องเที่ยว เข้าประเทศไทยเป็นเรื่องสำคัญในการพิจารณาต่อไป และการทำประชาวิจารณ์ เป็นหน้าที่ของ กระทรวงมหาดไทย
ส่วน Expat ผมตั้งคณะกรรมการ มา ปรึกษาหารือ เพื่อจัดทริป ชาวต่างชาติภายในประเทศ Expat ได้มีตั้งคณะกรรมการ มาปรึกษาหารือ เพื่อจัดทริปให้เร็วที่สุด
และทางด้านการช่วยเหลือ SME นั้น ทางรัฐบาลกำลังมีการประชุมปรึกษาหารือเรื่องนี้กันอยู่ ซึ่งเร็วๆนี้ ทั้งหมด คงชงเรื่องเข้า ครม เพื่อพิจารณาต่อไป…นายพิพัฒน์…กล่าว…

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ก่อนทำงานวันแรก


วันที่ 18 ก.ค. 62 นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมายังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างเป็นทางการ ลำดับแรกได้เข้าสักการะศาลพระภูมิ​ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ บริเวณสวน 4 ภาค ทั้งนี้ รมว.พิพัฒน์​ได้ให้สัมภาษณ์ แก่สื่อมวลชนถึงเรื่องที่ต้องการทำเป็นลำดับแรก คือ ทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงเป็นรายได้หลัก ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
วาระเร่งด่วนทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยมุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะถือว่านักท่องเที่ยวนำรายได้มาสู่ประเทศไทยและจะเน้นการท่องเที่ยวชุมชนให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้จำนวนนักท่องเที่ยวกระจุกตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่ง
วาระพิเศษ จะเน้นเรื่องความปลอดภัย โดยมีแนวทางคือ จะสร้างอาสาสมัครตามชุมชน เพื่อให้มีส่วนร่วมในการดูแลนักท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยว เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ
ด้านกีฬา จะพัฒนากีฬาเยาวชนสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ Sport Tourism​ จะพยายามจัดทัวร์นาเม้นท์ระดับโลกให้มาจัดในเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการจัดการแข่งขัน Moto GP ในอนาคตก็จะพัฒนาการวิ่ง Trail ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และเรื่อง ESport โดยจะดึงทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ๆ เข้ามาจัดในประเทศไทยมากขึ้นซึ่งจะเป็นการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยอีกด้วย
\”งานยาก : ต้องไม่มีอะไรเป็นสิ่งที่ยาก ทุกอย่างเราต้องฟันฝ่าให้ได้ เมื่อรับมอบหน้าที่แล้วเราต้องทำให้ดีที่สุด ผมจะดูตัวอย่างจากรัฐมนตรีที่ผ่านมาเป็นแบบอย่าง อะไรที่ดีเราคงไว้ อะไรยังไม่ดีจะพัฒนาให้ดีขึ้น\” รัฐมนตรี.กล่าวทิ้งท้าย…

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ก่อนทำงานวันแรก

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMOVIE

Leave a Comment